คำศัพท์ที่ควรหลีกเลี่ยงในงานทางการ มีศึกษากันเถอะ

คำศัพท์ที่ควรหลีกเลี่ยงในงานทางการ มีศึกษากันเถอะ

ThaiProofAI

หลายคนคงเคยสงสัยว่าทำไมงานเขียนราชการหรืองานที่เป็นทางการถึงต้องใช้ภาษาที่ดูห่างเหินและเข้าใจยาก? บางครั้งเราก็เผลอใช้คำพูดในชีวิตประจำวันไปในงานสำคัญๆ จนทำให้งานดูไม่เป็นมืออาชีพ วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันว่า “คำศัพท์ที่ควรหลีกเลี่ยงในงานทางการ” มีอะไรบ้าง พร้อมเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ควรใช้ และมีคำไหนมาใช้แทนได้บ้าง รับรองว่าอ่านจบแล้ว งานเขียนของคุณจะดูโปรขึ้นทันที!


  1. ทำไมต้องเลี่ยง? เหตุผลเบื้องหลังการใช้ภาษาที่เหมาะสม
  2. ประเภทของคำที่ควรเลี่ยง แบ่งตามลักษณะการใช้งาน
    • คำพูดในชีวิตประจำวัน (คำสแลง)
    • คำที่สื่อความหมายคลุมเครือ
    • คำที่แสดงอารมณ์หรือความรู้สึกส่วนตัว
    • คำที่ใช้ในการพูดแต่ไม่เหมาะกับการเขียน
  3. เจาะลึก: คำศัพท์ที่ไม่ควรใช้ในงานทางการ (พร้อมคำแนะนำสำหรับคำที่ใช้แทน)
  4. บทสรุป: สร้างความน่าเชื่อถือด้วยภาษาที่ใช่

1. ทำไมต้องเลี่ยง?

การใช้คำศัพท์ที่เหมาะสมในงานที่เป็นทางการ ไม่ใช่แค่เรื่องของความถูกต้องทางไวยากรณ์ แต่เป็นเรื่องของการ สร้างความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพ งานทางการมีจุดประสงค์เพื่อสื่อสารข้อมูลอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา และเป็นกลาง การใช้คำที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด ดูไม่จริงจัง หรือลดทอนความสำคัญของเนื้อหาลง ลองคิดดูว่าถ้าเราเห็นประกาศจากหน่วยงานรัฐบาลที่เต็มไปด้วยคำว่า "โคตรเจ๋ง" หรือ "น่ารักอะ" เราจะรู้สึกอย่างไร? แน่นอนว่าความน่าเชื่อถือจะลดลงทันที เพราะภาษาในงานทางการทำหน้าที่เป็นเครื่องมือในการสร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือและเป็นระบบ

2. ประเภทของคำที่ควรเลี่ยง

เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น เราจะแบ่งคำที่ควรเลี่ยงออกเป็นกลุ่มๆ เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าคำเหล่านั้นมีลักษณะอย่างไร

  • คำพูดในชีวิตประจำวัน (คำสแลง): คำเหล่านี้เป็นคำที่เราใช้พูดคุยกับเพื่อนสนิท เช่น "โคตร", "เจ๋ง", "ปัง", "ฟิน", "จิกกัด", "เม้าท์มอย" หรือคำที่แสดงอาการอย่าง "งอแง", "มึนตึ๊บ" คำเหล่านี้เหมาะสำหรับบทสนทนาที่ไม่เป็นทางการ แต่ไม่เหมาะกับการนำมาใช้ในรายงาน, หนังสือราชการ, อีเมลธุรกิจ หรือบทความวิชาการ เพราะจะทำให้เนื้อหาดูไม่น่าเชื่อถือและลดทอนความเป็นทางการลงไป

  • คำที่สื่อความหมายคลุมเครือ: คำเหล่านี้เป็นคำที่ไม่ได้ให้ข้อมูลที่เจาะจงหรือชัดเจน เช่น "ค่อนข้าง", "ประมาณ", "ส่วนใหญ่", "บ้าง", "อะไรทำนองนั้น" การใช้คำเหล่านี้บ่อยๆ อาจทำให้ผู้อ่านรู้สึกไม่มั่นใจในข้อมูลที่คุณนำเสนอ เช่น แทนที่จะบอกว่า "จำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นประมาณ 100 คน" ควรระบุตัวเลขที่แน่นอนไปเลยว่า "จำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้น 112 คน" หรือใช้คำว่า "จำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 คน" เพื่อให้ข้อมูลชัดเจนขึ้น

  • คำที่แสดงอารมณ์หรือความรู้สึกส่วนตัว: งานทางการควรมีความเป็นกลางและเป็นวัตถุวิสัย คำที่แสดงอารมณ์ส่วนตัว เช่น "น่าเสียดาย", "ดีใจมาก", "รู้สึกผิดหวัง" จึงไม่ควรใช้ ยกเว้นในกรณีที่เป็นการเขียนจดหมายส่วนตัวหรือจดหมายแสดงความยินดี เช่น แทนที่จะเขียนว่า "น่าเสียดายที่โครงการนี้ไม่สำเร็จ" ควรเขียนว่า "โครงการนี้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด" เพื่อให้มีความเป็นกลางมากขึ้น

  • คำที่ใช้ในการพูดแต่ไม่เหมาะกับการเขียน: คำเหล่านี้เป็นคำที่เราใช้ในการสื่อสารแบบปากเปล่า แต่เมื่อนำมาเขียนจะดูไม่สละสลวย เช่น "และอื่นๆ", "อะไรอย่างนี้", "อย่างงี้" หรือการใช้คำเชื่อมที่มากเกินไป เช่น "ก็", "แต่ก็", "แล้วก็" ในการเขียนควรเลือกใช้คำเชื่อมที่เหมาะสมและมีความหมายชัดเจนกว่านี้

3. เจาะลึก: คำศัพท์ที่ไม่ควรใช้ในงานทางการ

มาถึงส่วนที่สำคัญที่สุดแล้ว เราจะมาเจาะลึกกันว่าแต่ละคำที่เรามักใช้ผิดๆ ในงานทางการนั้น มีคำไหนบ้าง และควรใช้คำไหนมาแทน

กลุ่มที่ 1: คำสแลงและภาษาปาก

  • "โคตร", "โคตรๆ"
    • ไม่ควรใช้เพราะ: เป็นคำสแลงที่แสดงการเน้นย้ำแบบไม่เป็นทางการ
    • คำที่ใช้แทน: "อย่างมาก", "อย่างยิ่ง", "เป็นอย่างยิ่ง", "สูงมาก"
    • ตัวอย่าง: ไม่ใช้: "ผลการดำเนินงานดีโคตรๆ" ควรใช้: "ผลการดำเนินงานเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม"
  • "เจ๋ง", "ปัง"
    • ไม่ควรใช้เพราะ: เป็นคำชมที่ไม่เป็นทางการ
    • คำที่ใช้แทน: "ยอดเยี่ยม", "ดีเยี่ยม", "ประสบความสำเร็จ", "เป็นที่น่าพอใจ"
    • ตัวอย่าง: ไม่ใช้: "แผนการตลาดครั้งนี้ปังมาก" ควรใช้: "แผนการตลาดครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี"
  • "จิกกัด", "เม้าท์มอย"
    • ไม่ควรใช้เพราะ: เป็นคำที่มีความหมายเชิงลบและไม่เป็นทางการ
    • คำที่ใช้แทน: "วิพากษ์วิจารณ์", "กล่าวถึงในแง่ลบ"
    • ตัวอย่าง: ไม่ใช้: "อย่าเอาเรื่องนี้ไปเม้าท์มอยกับใครนะ" ควรใช้: "โปรดเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ"

กลุ่มที่ 2: คำคลุมเครือและไม่เจาะจง

  • "ค่อนข้าง"
    • ไม่ควรใช้เพราะ: ทำให้ข้อมูลไม่ชัดเจนและไม่แม่นยำ
    • คำที่ใช้แทน: "จำนวนมาก", "บางส่วน", "ส่วนใหญ่" หรือระบุข้อมูลที่แน่นอน
    • ตัวอย่าง: ไม่ใช้: "สินค้าได้รับความนิยมค่อนข้างมาก" ควรใช้: "สินค้าได้รับความนิยมเป็นอย่างดี" หรือ "สินค้าได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าหลัก"
  • "ประมาณ"
    • ไม่ควรใช้เพราะ: บ่งบอกถึงการประมาณการที่ไม่แม่นยำ หากมีข้อมูลที่แน่นอนควรใช้ตัวเลขนั้นไปเลย
    • คำที่ใช้แทน: ระบุตัวเลขที่แน่นอน หากไม่ทราบให้ใช้คำว่า "มากกว่า/น้อยกว่า..." เพื่อให้ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
    • ตัวอย่าง: ไม่ใช้: "มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 200 คน" ควรใช้: "มีผู้เข้าร่วมงาน 215 คน" หรือ "มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 200 คน"

กลุ่มที่ 3: คำที่แสดงอารมณ์หรือความคิดเห็นส่วนตัว

  • "รู้สึกว่า..."
    • ไม่ควรใช้เพราะ: ทำให้ประโยคดูเป็นความเห็นส่วนตัวมากกว่าข้อเท็จจริง
    • คำที่ใช้แทน: "มีข้อสังเกตว่า...", "จากการวิเคราะห์พบว่า..."
    • ตัวอย่าง: ไม่ใช้: "รู้สึกว่าโครงการนี้น่าจะดีกว่านี้" ควรใช้: "โครงการนี้ยังมีโอกาสในการปรับปรุงในด้าน..."
  • "น่าเสียดาย"
    • ไม่ควรใช้เพราะ: แสดงอารมณ์ความรู้สึกที่ไม่เป็นกลาง
    • คำที่ใช้แทน: "เป็นที่น่าเสียใจที่...", "ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด", "ยังไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวัง"
    • ตัวอย่าง: ไม่ใช้: "น่าเสียดายที่งบประมาณไม่พอ" ควรใช้: "เนื่องจากงบประมาณมีจำกัด จึงไม่สามารถดำเนินโครงการได้เต็มรูปแบบ"

กลุ่มที่ 4: คำที่ใช้ในการพูดแต่ไม่เหมาะกับการเขียน

  • "อะไรทำนองนั้น", "อะไรแบบนี้"
    • ไม่ควรใช้เพราะ: ทำให้ประโยคไม่กระชับและไม่เป็นทางการ
    • คำที่ใช้แทน: ระบุสิ่งที่ต้องการสื่อสารให้ชัดเจน หรือใช้คำว่า "เป็นต้น"
    • ตัวอย่าง: ไม่ใช้: "เราจะจัดการประชุมเรื่องปัญหาต่างๆ อะไรทำนองนั้น" ควรใช้: "เราจะจัดการประชุมเพื่อหารือปัญหาเรื่อง..."
  • การใช้คำซ้ำซ้อน
    • "ร่วมกันทั้งสองฝ่าย"
      • ไม่ควรใช้เพราะ: คำว่า "ร่วมกัน" ก็หมายถึงตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไปอยู่แล้ว การใช้ "ทั้งสองฝ่าย" จึงซ้ำซ้อน
      • ควรใช้: "ร่วมกัน" หรือ "ร่วมกันทั้งสองฝ่าย" ในกรณีที่ต้องการเน้นย้ำจริงๆ
    • "เพื่อที่จะ"
      • ไม่ควรใช้เพราะ: คำว่า "เพื่อ" ก็มีความหมายที่ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมี "ที่จะ"
      • ควรใช้: "เพื่อ..."

4. บทสรุป: สร้างความน่าเชื่อถือด้วยภาษาที่ใช่

การเลือกใช้คำศัพท์ที่เหมาะสมในงานทางการเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยยกระดับงานเขียนของคุณให้ดูน่าเชื่อถือและเป็นมืออาชีพมากขึ้น เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการ ฝึกสังเกต คำที่เรามักใช้ผิด และ หาคำที่เหมาะสมมาใช้แทน การใช้ภาษาที่ถูกต้อง ไม่เพียงแต่จะช่วยให้งานเขียนของคุณดูดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณสามารถสื่อสารข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสที่จะเกิดความเข้าใจผิด และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตัวคุณเองและองค์กร

การฝึกฝนเป็นกุญแจสำคัญ เริ่มจากการอ่านงานเขียนทางการที่ดีๆ บ่อยๆ และลองเขียนเองดู เมื่อคุ้นชินแล้ว การใช้ภาษาที่ถูกต้องในงานที่เป็นทางการก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ และนั่นจะทำให้คุณเป็นนักสื่อสารที่น่าเชื่อถือในทุกสถานการณ์


ADVERTISEMENT
1
21

บทความแนะนำ

ประกาศผลสอบท้องถิ่น 2568 เช็คด่วน!
ประกาศผลสอบท้องถิ่น 2568 เช็คด่วน!
2 ธันวาคม 2568

ประกาศผลสอบท้องถิ่น 2568 เช็คด่วน ข่าวการเปิดสอบท้องถิ่นประจำปี 2568 ทั่วประเทศ ประกาศผลสอบท้องถิ่น 2568 เช็คด่วน ขณะนี้ยังไม่ประกาสผล ประกาศผลสอบท้อง...

อ่านต่อ
ประวัติศาสตร์ภาษาไทย ตั้งแต่สมัยโบราณ
ประวัติศาสตร์ภาษาไทย ตั้งแต่สมัยโบราณ
1 ธันวาคม 2568

สวัสดีครับทุกคน! วันนี้ผมจะมาแชร์เรื่องราวที่ผมหลงใหลมาตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรี จนกระทั่งได้คลุกคลีทำงานด้านภาษาศาสตร์และอนุรักษ์เอกสารโบราณมาเกือบสิ...

อ่านต่อ
Thaiproofai เครื่องมือเช็คคำผิดภาษาไทยที่ทำให้คุณเขียนเหมือนมี "มืออาชีพ"
Thaiproofai เครื่องมือเช็คคำผิดภาษาไทยที่ทำให้คุณเขียนเหมือนมี "มืออาชีพ"
28 พฤศจิกายน 2568

เคยไหม? พิมพ์งานยาวๆ เป็นหน้าๆ เสร็จแล้วส่งอาจารย์หรือส่งเจ้านายไป แล้วดันมีคนจับคำผิดได้แบบน่าอาย! หรือบางทีเราก็มั่นใจว่าพิมพ์ถูกทุกตัวอักษร แต่พอส...

อ่านต่อ
 เทคโนโลยี AI ปี 2026: มันไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่มันคือ “ผู้ร่วมทีม” ตัวจริง!
เทคโนโลยี AI ปี 2026: มันไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่มันคือ “ผู้ร่วมทีม” ตัวจริง!
26 พฤศจิกายน 2568

เคยไหม? นั่งอ่านข่าว AI แล้วรู้สึกว่ามันไกลตัวเหลือเกิน... ขอบอกเลยว่าอีกไม่เกินปี 2026 นี้ AI จะกลายเป็นเหมือน "อากาศ" ที่เราหายใจเข้าไปโดยไม่รู้ตัว!...

อ่านต่อ